วันที่ 19 สิงหาคม
2555
ชี้แจ้งเกี่ยวกับการผลิตสื่อจากปฏิทินตั้งโต๊ะ
อาจารย์ให้นักศึกษาทำปฏิทินคำศัพท์
โดยกลุ่มของดิฉันได้ อักษรต่ำ สระ อุ อู โดยให้นำอักษรเสียงต่ำมาผสมกับสระ อุ อู
ให้ได้เป็นคำต่างๆ การทำสื่อนั้นจะต้องมีเทคนิคและออกแบบสื่อให้น่าสนใจ
พร้อมทั้งหาภาพประกอบในคำต่างๆด้วย
1. อักษรสูง มี 11 ตัว คือ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ส ษ ศ ห
( ฉันฝากขวดขี้ผึ้งใส่ถุงให้เศรษฐี )
2. อักษรกลาง มี 9 ตัว ก จ ด ต บ ป อ ฎ ฏ
( ไก่จิกเด็กตายบนปากโอ่ง ฎ ฏ )
3.อักษรต่ำ มี 24 ตัวแบ่งเป็น
- อักษรต่ำคู่ มี 14 ตัว คือ ค ฅ ฆ ช ซ ฌ ฑ ฒ ท ธ พ ฟ
ภ ฮ
(พ่อค้าฟันทองซื้อช้างฮ่อ ฅ ฆ ฌ ฑ ฒ ธ ภ )
- อักษรต่ำเดี่ยว มี 10 ตัว คือ ง ญ น ย ณ ร ว ม ฬ ล
- อักษรต่ำเดี่ยว มี 10 ตัว คือ ง ญ น ย ณ ร ว ม ฬ ล
( งูใหญ่นอนอยู่ ณ ริมวัดโมฬีโลก )
สระ
อะ
อา / อิ อี / อึ อือ / อุ อู
/ เอะ เอ / แอะ
แอ /
โอะ โอ
_._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._._
ให้นักศึกษาทำกิจกรรมภายในชั้นเรียน
1. อาจารย์ให้นักศึกษานำสิ่งของที่มีประโยชน์และสำคัญต่อนักศึกษา
= แว่นตา เพราะดิฉันสายตาสั้น หากดิฉันไม่มีแว่นตาจะทำให้การเรียนหนังสือและการใช้ชีวิตประจำวันของดิฉันยุ้งยากมากกว่าเดิมคะ
2. อาจารย์ให้นักศึกษาโฆษณาสินค้า 1 ชิ้นอะไรก็ได้
= Tablet
เพราะหากคุณเหนื่อยที่จะต้องแบกหนังสือทีละหลายๆเล่ม
เหนื่อยกับการที่ต้องเพ่งมองตัวอักษรในโทรศัพท์เครื่องเล็กๆ คุณต้องลองใช้ Samsung
Galaxy Tab 7.7 เพื่อชีวิตที่สะดวกสบายในการทำงานและการเรียน ทั้งโน้ตข้อความ
พิมพ์เอกสาร นำเสนองาน และอื่นๆอีกมากมายหลากหลาย Application ให้เลือกดาวโหลดใช้ อยากรู้คุณต้องลอง
4. อาจารย์ให้นักศึกษาวาดภาพตามใจชอบ
ประโยชน์ที่ได้รับในการทำกิจกรรมในวันนี้พร้อมกับศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ได้รู้เกี่ยวกับการส่งเสริมพฤติกรรมกล้าแสดงออก
หรือ Assertive
Behavior ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกล้าแสดงสิทธิ
ความคิดเห็น ความเชื่อ ความรู้สึก หรือความต้องการของตนเองให้ผู้อื่นรับรู้
และกล้าที่จะปฏิเสธด้วยวิธีการที่ตรงไปตรงมา และเหมาะสม โดยไม่รบกวนสิทธิของผู้อื่น
การที่เรามีพฤติกรรมกล้าแสดงออกนั้น
แสดงให้เห็นถึงความเคารพนับถือและความต้องการที่เรามีให้แก่ตนเองและผู้อื่นด้วย
ประเภทของพฤติกรรมกล้าแสดงออก สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท
คือ
1. การแสดงออกแบบพื้นฐาน (Basic
Assertion) เป็นการกล้าแสดงสิทธิ ความเชื่อ
ความคิดเห็นหรือความรู้สึกของตนเอง โดยไม่เกี่ยวข้องกับทักษะทางสังคมด้านอื่น ๆ
เช่น เมื่อเรามีความรู้สึกดี ๆ กับใครสักคนเราสามารถบอกได้ว่า " ฉันชอบคุณ
" หรือ " ฉันรักคุณ " เป็นต้น
2. การแสดงออกแบบตระหนัก (Empathic
Assertion) บางครั้งการแสดงความรู้สึกหรือความต้องการของเรามีผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้อื่นวิธี
Empathic Assertion โดยเราจะเริ่มต้นด้วยประโยคที่แสดงให้เห็นว่าเราเข้าใจหรือตระหนักในความรู้สึกหรือความคิดเห็นของผู้อื่น
แล้วตามด้วยการแสดงสิทธิหรือความต้องการของตนเอง เช่น ถ้าเรารู้สึกเพื่อนเข้ามาวุ่นวาย
คอยให้คำแนะนำกับเรามากจนเกินไป
เราสามารถบอกให้เพื่อนรับรู้ความรู้สึกของเราได้โดยอาจจะพูดว่า "
ฉันเข้าใจนะที่เธอคอยเป็นห่วงเป็นใย ให้คำแนะนำฉันในทุก ๆ
เรื่องเป็นเพราะว่าเธอรักฉันไม่ต้องการให้ฉันทำอะไรผิดพลาดไป
แต่ฉันคิดว่าฉันโตแล้ว และสามารถรับผิดชอบตัวเองได้
ฉันต้องการที่จะตัดสินใจและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวฉันเอง
ถึงแม้ว่ามันอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
ฉันก็พร้อมที่จะยอมรับผลที่ตามมาอย่างไรก็ฉัน ขอขอบคุณ
สำหรับคำแนะนำที่มีให้ตลอดมา " เป็นต้น
3. การแสดงออกแบบเพิ่มระดับ (Escalating
Assertion) เป็นการกล้าแสดงออกที่เริ่มจากระดับต่ำที่สุด
แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ เช่น "เธอก็ทำหน้าที่ของเธอได้ดี
แต่เราคิดว่าเธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้"
4. การแสดงออกแบบเผชิญหน้า (Confrontation
Assertion) วิธีการนี้ใช้เมื่อการกระทำกับคำพูดของผู้อื่นไม่เป็นไปในทางเดียวกัน
หรือไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ตั้งไว้
โดยวิธีการพูดนั้นจะเริ่มจากความต้องการหรือความรู้สึกของผู้พูดก่อน
แล้วตามด้วยความไม่เป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การตำหนิ หรือทำให้ผู้อื่นรู้สึกผิด
เช่น "ครูคิดว่าก่อนที่หนูจะรวบรวมงานมาส่ง หนูควรที่จะให้เพื่อนในกลุ่มตรวจทานก่อน
เพื่อครั้งต่อไปกลุ่มของหนูน่าจะได้คะแนนเพิ่มขึ้น"
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกล้าแสดงออกและการไม่กล้าแสดงออก
ตัวอย่างวิธีการเสริมสร้างพฤติกรรมกล้าแสดงออก
1. ภาพพจน์ที่ดีต่อตนเอง เป็นการสร้างบรรยากาศที่ทำให้ผู้เรียนได้พิจารณาถึงข้อดีของตนเอง เช่น
การให้นักเรียนหลับตาแล้วนึกถึงความดีของตนเอง โดยครูอาจจะเป็นผู้บรรยายคุณธรรมเหล่านั้นทำให้เด็กเกิดการรับรู้ว่าตนเป็นบุคคลที่มีคุณค่า
2. ภาพพจน์ที่ดีต่อผู้อื่น การฝึกให้ผู้เรียนยอมรับตนเองและผู้อื่น โดยใช้กิจกรรมสร้างเสริมความมั่นใจให้แก่ผู้อื่น (เพื่อน) เช่น การชื่นชมและยอมรับผลงานของเพื่อน แล้วพร้อมที่จะนำสิ่งที่ดีนำไปปรับปรุงใช้เพื่อพัฒนาตนเอง
3. การมองโลกในแง่ดี เป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้ตนเองมีคุณค่า
เป็นการมองตนเองและผู้อื่นในด้านบวก อีกทั้งเชื่อว่าทุกคนมีพื้นฐานทางจิตใจที่ดีและพร้อมที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เช่น
เด็กหญิงสมหญิงมองว่าที่เด็กชายสมบูรณ์ไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนหรือออกไปสังสรรค์บ่อยๆ
เป็นคนประหยัด แต่สมบูรณ์ก็เป็นที่รักของเพื่อนๆเพราะชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ
4. มีความฉลาดทางอารมณ์ เป็นการควบคุมตนเองในด้านพฤติกรรมกล้าแสดงออก
โดยการควบคุมสภาวะจิตใจให้มั่นคงและเกิดความสมดุล เช่น การใช้ศิลปะและดนตรี เพื่อให้เด็กเกิดสมาธิและความมั่นคงทางด้านอารมณ์
5.โอกาส เป็นการสร้างสถานการณ์ที่ทำให้เด็กฝึกพฤติกรรมกล้าแสดงออก
เช่น การเปิดโอกาสให้เด็กได้-
แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระหรือการให้เด็กได้แสดงความสามารถโดยไม่จำกัดกิจกรรม และเพื่อให้เด็กได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่อย่างสร้างสรรค์
6. การเสริมแรง (Reinforcement) คือการทำให้ความถี่ของพฤติกรรมเพิ่มขึ้น
อันเป็นผลเนื่องมาจากผลกรรมที่ตามหลังพฤติกรรมนั้น
1.การเสริมแรงท างบวก (Positive Reinforcement)หมายถึง
สิ่งของ คำพูด หรือสภาพการณ์ที่จะช่วยให้พฤติกรรมเกิดขึ้นอีก
หรือสิ่งทำให้เพิ่มความน่าจะเป็นไปได้ของการเกิดพฤติกรรม
คุณครูอาจจะชมเมื่อนักเรียนทำสิ่งนั้นได้ดี เช่น เก่งมากค่ะ ดีมากค่ะ และยอดเยี่ยมมาก เป็นต้น
2.การเสริมแรงท างลบ (Negative Reinforcement) หมายถึง
การเปลี่ยนสภาพการณ์หรือเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็อาจจะทำให้บุคคลแสดงพฤติกรรมได้ เช่น การพูดตำหนิเพื่อให้เด็กรู้ว่าพฤติกรรมที่แสดงออกไม่เหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น